1. พักสมอง
หยุดทำกิจกรรมเครียด ๆ อย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนนอน
เพราะจะทำให้คุณไม่อยากนอน นอนไม่หลับ หรือแม้แต่หลับไม่สนิท
เพราะเก็บเอาสารพัดเรื่องในหัวไปคิดหรือฝันร้าย
2. ปล่อยให้ท้องว่าง
อย่าจัดหนักมื้อเย็นใกล้เข้านอน เพราะหลังกินอาหารร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงในการย่อย ยิ่งถ้ากินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ก็ยิ่งใช้เวลาย่อยนานขึ้น การกินอาหารแล้วนอนทันที นอกจากจะทำให้กระบวนการย่อยไม่สมบูรณ์แล้ว ยังอาจทำให้นอนไม่หลับและเสี่ยงเป็นโรคกรดไหลย้อนได้ด้วย
3. ออกกำลังช่วงเย็น
ถ้าคุณนอนหลับยาก การออกกำลังกายในช่วงเย็น หรือ 4-6 ชั่วโมงก่อนนอนเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้หัวถึงหมอนนอนหลับได้ทันที
5. ใช้อุปกรณ์เสริม
สำหรับคนเซนซิทีฟกับแสงหรือเสียง การใช้อุปกรณ์เสริมอย่างที่ปิดตา หรือที่อุดหูก็เป็นตัวช่วยที่น่าสนใจ
6. กำจัดสิ่งรบกวน
ห้องนอนคือห้องที่คุณจะใช้พักผ่อนอย่างสงบ จึงไม่ควรมีทีวี คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่แล็ปท็อป มีงานวิจัยระบุว่าแสงจากอุปกรณ์เหล่านี้ จะไปกระตุ้นฮอร์โมนในการนอน และทำให้ร่างกายตื่นตัว ดังนั้นควรปิดไฟและอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงอุปกรณ์สื่อสารก่อนนอนสักหนึ่งชั่วโมง
7. กล้วยหอม เมนูคลาสสิก
แค่ปอกกล้วยหอมเข้าปาก อาการนอนไม่หลับก็กลายเป็นปัญหากล้วย ๆ สมชื่อ เพราะผิวของกล้วยหอมมีฤทธิ์เหมือนยานอนหลับกลาย ๆ และมีอะมิโนแอซิดที่เรียกว่า ทริปโตฟาน ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นเซโรโทนิน (Serotonin) เมื่อกินแล้วจะช่วยคลายเครียดคลายกังวล ทำให้หลับสบายยิ่งขึ้น
8. จัดระเบียบห้องนอน
ลองคิดดูนะคะว่าระหว่างห้องนอนที่รกรุงรัง มีเสียงดังรบกวน มีแสงไฟลอดเข้ามา กับห้องนอนที่สะอาดสะอ้าน เงียบสงบ มีม่านบังตา มิดชิด ห้องนอนไหนจะทำให้คุณหลับสบายมากกว่ากัน รู้อย่างนี้แล้วลองลุกขึ้นมาจัดระเบียบห้องนอน เพื่อการพักผ่อนอันแสนสุขของคุณกันดีกว่า
9. นอนและตื่นเป็นเวลา
เปลี่ยนนิสัยการนอนเสียใหม่ด้วยการเข้านอนและตื่นให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน เพียงหนึ่งอาทิตย์เท่านั้นร่างกายก็จะเริ่มคุ้นเคยแล้ว
10. กล่อมตัวเองด้วยเสียงเพลง
การเปิดเพลงคลาสสิก หรือเพลงบรรเลงจังหวะเนิบช้า คลอเบา ๆ
ช่วยให้การนอนหลับของคุณดีขึ้น ผลการศึกษา
ชี้ว่าเพียงฟังดนตรีจังหวะผ่อนคลายเป็นเวลา 45 นาทีก่อนนอน
จะทำให้ค่ำคืนนั้นกลายเป็นวันแห่งการพักผ่อนของคุณอย่างแท้จริง Sign up here with your email
ConversionConversion EmoticonEmoticon